top of page
Ronaldo-5-1.jpg

คริสเตียโน โรนัลโด้

นักเตะสัญชาติ โปรตุเกส

ประวัตินักเตะ

โรนัลโด้ เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลด้วยการเข้าทีมเยาวชนของ Andorinha ตอนอายุ 6 ขวบ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ Nacional ในอีก 2 ปีต่อมา และฉายแววโดดเด่นจนได้เข้าสู่อคาเดมีของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรยักษ์ใหญ่ของโปรตุเกส ในวัย 12 ปีในทีมอคาเดมี่ โรนัลโด้ พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น กระทั่งถูกดันขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ของสปอร์ติ้ง ลิสบอน และลงประเดิมสนามในลีกโปรตุเกสนัดแรก ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้นในฤดูกาล 2002-2003 และเจ้าหนูโรนัลโด้ก็ไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอย โดยทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับโอกาสลงสนามถึง 31 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 5 ประตู ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับแข้งดาวรุ่งวัย 17 ย่าง 18 ปีเท่านั้น พร้อมกับตกเป็นเป้าหมายที่สโมสรดังทั่วยุโรปเริ่มให้ความสนใจ หลังจากนั้น จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่น เมื่อเดือนสิงหาคม 2003 ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน และเกมจบลงด้วยชัยชนะของ ลิสบอน 3-1 พร้อมกับฟอร์มสุดโหดของ โรนัลโด้ ซึ่งเล่นงานเกมรับของทีมผีแดงจนปั่นป่วนตลอดทั้งเกม ถึงขั้นที่บรรดานักเตะต้องไปบอกกุนซือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้รีบไปกระชากตัวเจ้าดาวรุ่งฝอยทองคนนี้มาร่วมทีมโดยด่วน“หลังจากเกมที่เราเจอกับสปอร์ติ้ง พวกลูกทีมผมต่างพูดถึงเขา (โรนัลโด้) อีกแค่สัปดาห์เดียว เจ้าหนูโรนัลโด้ วัย 18 ปี ก็มายืนโดดเด่นเป็นสง่าที่อยู่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิตินักเตะ “วัยทีน” ที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ณ เวลานั้น  การย้ายมายังถิ่นปีศาจแดง โรนัลโด้ ร้องขอเสื้อหมายเลข 28 ซึ่งเป็นเบอร์เดียวกับที่เขาใส่กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่เฟอร์กี้กลับมอบเสื้อหมายเลข 7 ให้กับเขา ซึ่งเป็นเบอร์ของแข้งระดับตำนานอย่าง จอร์จ เบสต์, ไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตน่า และ เดวิด เบ็คแฮมหากเป็นดาวรุ่งคนอื่น อาจจะกดดันจนโชว์ฟอร์มไม่ออก แต่ไม่ใช่กับเด็กหนุ่มที่ชื่อ โรนัลโด้ ซึ่งใช้เบอร์ 7 เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองต้องก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดผู้เล่นเหมือนตำนานเหล่านั้นให้ได้ ยิ่งบวกกับการมียอดกุนซืออย่าง เฟอร์กี้ ช่วยขัดเกลาและบ่มเพาะ ยิ่งทำให้ โรนัลโด้ พัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว และเขย่าสังเวียนลูกหนังพรีเมียร์ลีกได้อย่างน่าทึ่ง ในช่วงแรกบนลีกเมืองผู้ดี โรนัลโด้ ถูกวิจารณ์เกี่ยวกับสไตล์การเล่นที่มัก “ฉายเดี่ยว” ตะบี้ตะบันเลี้ยงมากจนเกินไป รวมถึงการสับขาหลอกคู่แข่งที่ถูกนำมาใช้อย่างพร่ำเพรื่อ โดยปีแรกกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2003-04 เจ้าโด้เปรี้ยงปร้างมากนัก ซัดไป 6 ลูกจากการลงเล่น 40 นัดในทุกรายการ แต่หลังจากนั้น โรนัลโด้ค่อยๆ ปรับสไตล์การเล่นเพื่อทีมมากขึ้น ตลอดจนสภาพร่างกายและฝีเท้าที่แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ ทำให้โรนัลโด้ก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะพรีเมียร์ลีกแบบไร้ข้อกังขา ด้วยผลงานพาแมนฯ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อน ในฤดูกาล 2006-07, 2007-08 และ 2008-09 รวมถึงแชมป์อื่นๆ และเกียรติยศส่วนตัวอีกนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะในปี 2008 ซึ่งโรนัลโด้กวาดทั้งรางวัล บัลลงดอร์ และผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟีฟ่ามาครองได้แบบสุดยอด หลังจากตัดสินใจยุติเส้นทาง 6 ปีกับแมนฯ ยูไนเต็ด โรนัลโด้ย้ายมายัง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน ในฤดูกาล 2009-10 ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ทั้งนี้ โรนัลโด้ ค้าแข้งกับมาดริด 9 ฤดูกาล และมีสถิติถล่มประตูให้กับทีมอย่างเป็นกอบเป็นกำ ด้วยผลงานลงสนามไปทั้งสิ้น 438 นัดในทุกรายการ ทะลวงตาข่ายคู่แข่งไปถึง 450 ลูก เฉลี่ยแล้ว โรนัลโด้ ต้องมียิงได้ 1 ประตูในการลงสนามทุกนัด 

bottom of page