กาก้า
นักเตะสัญชาติ บราซิล
ประวัตินักเตะ
กาก้า ลงเล่นเปิดตัวกับ เซา เปาโล ครั้งแรกเมื่อปี 2001เมื่ออายุได้ 18ปีและในฤดูกาลแรกเขาก็ยังไป 12ลูกจาก 27เกมที่ลงเล่น และ 10ประตู จาก22เกมในซีซั่นถัดมา ซึ่งในขณะที่เขาอายุ 17นั้นทางต้นสังกัด เซา เปาโล เกือบที่จะขาย กาก้า ไปให้กับ กาซิอันเทปสปอร์ ทีมในดิวิชั่น 1ตุรกี แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะ นูรัลลาห์ ซาแกลม กุนซือทีม กาซิอันเทปสปอร์ ขณะนั้น และทางบอร์ดบริหารของทีมนั้นปฏิเสธที่จะจ่ายเงินจำนวน 1.5ล้านเหรียญ ยูเอส (ประมาณ 60ล้านบาท)ให้กับ เซา เปาโล ซึ่งหลังจากที่ได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เซา เปาโล ฟอร์มของเขาก็เริ่มไปเตะตาบรรดาทีมใหญ่ในยุโรป กาก้า ย้ายสู่ เอซี มิลานเมื่อปี 2003ด้วยค่าตัว 8.5ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 340ล้านบาท) ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ ประธานสโมสรมิลานบรรยายถึงนักเตะรายนี้ว่า "เขาเล่นฟุตบอลเหมือนมีตาหลัง" และเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น กาก้า ก็มาอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้เลย และหลังจากนั้นเขากได้ลงลเนเกม เซเรีย อา นัดแรกซึ่งเป็นที่ทีมออกไปเยือน อันคอน่า และ มิลาน ก็คว้าชัยไปได้ 2-0.และเขายิงไป 10ประตูจาก 30เกมที่ลงเล่นในซีซั่นนั้น ซึ่งต้นสังกัดก็คว้าสคูเด็ดโต้ และ ถ้วย ยูโรเปี้ยน ซุปเปอร์ คัพได้ด้วย
กาก้า เป็นหนึ่งใน 5แผงมิดฟิลด์ของมิลาน ในฤดูกาล 2004-2005 และบ่อยครั้งที่ต้องขึ้นไปเล่นเป็นหน้าต่ำเพื่อสนับสนุน อังเดร เชฟเชนโก้ หัวหอกของทีมในเวลานั้น .และฤดูกาลที่สองของเขานั้นก็จบลงที่การยิงไป 7ลูกจาก 36เกมที่ลงเล่นและมีถ้วย อิตาเลียน ซุปเปอร์ คัพ ติดมือมาด้วย .โดยในลีก มิลาน จบอันดับที่ 2ตามหลัง ยูเวนตุส ทีมแชมป์และต้องพลาดการคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปอย่างน่าเสียดายเมื่อแพ้จุดโทษต่อ ลิเวอร์พูลไปในรอบชิงชนะเลิศ .แต่ กาก้า ก็ได้รับเลือกให้เป็นกองกลางยอดเยี่ยมประจำทัวนาเมนต์ปีนั้น และในการประกาศผู้ได้รับรางวัล ลูกบอลของคำ ปีเดียวกัน กาก้านั้นได้รับการโหวต ทั้งหมด 19คะแนนและรั้งอยู่ในอันดับที่ 9
หนึ่งในประตูที่ กาก้า ทำได้ในชุดมิลานนั้นมีอยูประตูหนึ่งในนัดที่พบกับ เฟเนบาร์เช่ ในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2005/06 ที่ทีมรอสโซเนโร่ พิชิตทีมแดนไก่งวงไปได้ 3-1.ประตูที่เกิดขึ้นนี้มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนนำไปเปรียบเทียบกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า โดย กาก้า ลากบอลจากแดนกลางผ่านผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามถึง 3รายก่อนที่จะหลุดเข้าเขตโทษไปยิงผ่านผู้รักษาประตู โวลคาน เดมิเรล เข้าไป .และใน วันที่ 9เมษายน 2006 กาก้า ก็ซัดแฮตทริกแรกในการเล่นให้ มิลาน ได้สำเร็จในการพบกับ เวโรน่า โดยทั้ง 3ลูกมาจากการยิงในครึ่งหลังทั้งหมด ในปี 2006นี้ รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากสเปนแสดงความสนใจที่จะคว้าตัว กาก้า ไปร่วมทัพ แต่ทาง มิลาน ก็ปฏิเสธกลับไป โดยการจับดาวเตะวัย 24ปีรายนี้เซ็นสัญญาใหม่ที่จะทำให้เจ้าตัวอยู่กับทีมไปจนกระทั้งปี 2011 ต่อมา ในวันที่ 1พฤศจิกายน ปีเดียวกัน กาก้า ก็จัดการทำแฮตทริกที่สองให้กับตัวเองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับ อันเดอร์เลช ที่ทีมจาก อิตาลี เอาชนะไปได้ 4-1 และเป็นแฮตทริกแรกในบอลยุโรปของ ดาวเตะรูปหล่อรายนี้ด้วย กาก้า ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2006จากบรรดาสื่อมวลชน โดยมีการทำโพลของ"โอ โกลโบ"นิตยสารในบราซิล ในหัวข้อที่ว่า"ใครคือผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"ซึ่งจากผลสำรวจปรากฏว่า กาก้า ได้รับการโหวตถึง 81.5เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่2นั้นเป็น โรนัลดินโญ่ ทีได้ 11เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมี กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของอิตาลี ที่ตั้งหัวข้อสำรวจเดียวกัน และ กาก้า ก็ติดอยู่ในกลุ่มผู้เล่นยอดเยี่ยมที่ได้รับการโหวตเหมือนเดิมและหลังจากนั้น คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของ มิลาน ก็ออกมายกย่องลูกทีมของตนเองว่า กาก้านั้นเป็นผู้เล่นที่สมควรจะได้รางวัลฟุตบอลทองคำในปี 2006มากที่สุด แต่ก็ไม่เป็นไปมคาดเมื่อ ซีเนดีน ซีดาน เป็นผู้คว้ารางวัลนี้ไปครอง ข่าวคราวของกาก้าค่อนข้างที่จะเงียบหายไปในช่วงปี 2008-2009 มิลานไม่ได้แชมป์อะไรเท่าไหร่ แต่ช่วงกลางปี ก็ตกเป็นข่าวดังอีกครั้งหนึ่ง เมื่อฟลอเรนติโน่ เปเรซ ซึ่งกลับมาดำรงตำแหน่งประธานสโมสรอีกครั้ง ซื้อตัวกาก้า เพื่อเข้ามาตามการทำทีมแบบ "กาลาคติกอส" หรือทีมรวมซูเปอร์สตาร์ ในค่าตัวสูงถึง 56 ล้านปอนด์ หรือ 67.2 ล้านยูโร เข้ามาร่วมทีมเป็นรายแรก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนที่จะซื้อตัวโรนัลโด้ จากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นรายต่อมา ซึ่งกับทีมราชันนั้น กาก้า ได้สวมเสื้อเบอร์ 8 และเป็นกำลังหลัก ให้กับทีมดังแดนสเปน อยู่ในขณะนี้